วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

บอกลารอยดำจากสิว "เปลี่ยนหน้าสิว ให้พร้อมโชว์ความใส"


          ชั่วโมงนี้ใคร ๆ ก็อยากมีหน้าใส ๆ เนียน ๆ เอาไว้อวดคนรอบข้าง แต่จะทำอย่างไรดีเมื่อสิวเจ้ากรรมมักจะขึ้นมากวนใจอยู่ทุกที แถมยังทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ปวดใจเล่น ๆ อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมีปัญหานี้และหาวิธีแก้ไม่ตก วันนี้เรามีวิธีลดรอยสิวด้วยวิธีแบบธรรมชาติมาให้ลองทำกันดูค่ะ รับรองเลยว่าหน้าที่มีแต่รอยสิวจะกลายเป็นหน้าสวยใสได้ไม่ยาก แถมยังทำได้ง่ายไม่เปลืองเงิน เชื่อว่าต้องถูกใจคุณสาว ๆ อย่างแน่นอน เอ้า ! จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย



 ใช้น้ำมะนาวทาหน้า
          บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วยเล็ก ๆ นำสำลีมาชุบทาหน้าในบริเวณที่มีจุดด่างดำจากสิว โดยให้ทาก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออก ซึ่งในน้ำมะนาวจะมีกรด AHA ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำบ่อย ๆ จะช่วยลดรอยดำจากสิวได้เป็นอย่างดี แถมยังป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย


 สครับหน้าด้วยมะขามเปียก
          คั้นน้ำมะขามเปียกผสมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย เมื่อได้แล้วให้นำมาสครับผิวหน้าโดยการใช้นิ้วมือค่อย ๆ นวดวนเบา ๆ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยสิวจางลงและหน้ากระจ่างขาวใสมากขึ้น


 ลดรอยสิวด้วยหอมแดง
          นำหอมแดงไปปอกเปลือกและแช่เย็นไว้ จากนั้นให้นำออกมาหั่นเป็นแว่น ๆ ทุบสักเล็กน้อยเพื่อให้น้ำจากหัวหอมออกมา เมื่อได้แล้วให้นำมาโปะวางทิ้งไว้บนใบหน้าในบริเวณที่มีรอยสิว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วเอาออก ล้างหน้าให้สะอาด สูตรนี้ทำเพียงไม่กี่อาทิตย์ก็เห็นผลแล้วค่ะ



 ทาหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
          ในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะมีกรดลอริค ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวบนใบหน้าชุ่มชื้นและทำให้รอยสิวจางลงได้ เพียงแค่นำสำลีมาชุบน้ำมะพร้าวสกัดเย็นทาลงไปบริเวณที่มีรอยสิวก่อนนอน ทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดรอยสิวได้แล้ว ยังจะช่วยกำจัดแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย


 ใบบัวบกช่วยลดรอยดำและแผลเป็นจากสิว
          นำใบบัวบกไปตำให้ละเอียด จากนั้นให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างหน้าให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยลดรอยด่างดำจากสิวและช่วยลดแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดี เพราะในใบบัวบกจะมีสารไกลโคไซด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าขาวขึ้นและรอยสิวจางลงได้


          ได้วิธีรักษารอยดำจากสิวง่าย ๆ แบบธรรมชาติกันไปแล้ว คราวนี้คุณสาว ๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจกันอีกต่อไป สิวมาเมื่อไรก็จัดการได้เลย รับรองหน้าสวยใสจนใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาแน่นอน




แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
  

สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้ แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ.....แชร์เลย!!!!

Share: Line

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สิวตัวร้าย บ่อนทำลายความสวย



               ปัญหาผิวที่พบได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบมากในช่วงวัยรุ่น สิวสามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนของร่างกาย แต่บริเวณที่ทำให้สาวๆ ทั้งหลายเสียความมั่นใจมากที่สุดคือ บริเวณใบหน้า เพราะใบหน้า   เป็นดั่งเครื่องเสริมบุคลิกภาพของเราให้เจิดจรัสได้ในสายตาผู้พบเห็น

ประเภทของสิว
เราแบ่งสิวได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ตามลักษณะของการเกิดอักเสบคือ

1.สิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) บางตำราเรียก สิวอุดตัน 
               เป็นประเภทของสิวที่พบได้มากกว่า 70 %ของปัญหาสิว มักพบในวัยรุ่น และวัยหนุ่มสาว โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ และหลัง เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันหรือ Sebaceous gland จำนวนมาก สิวชนิดนี้แบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท คือ

1.1 สิวหัวปิด หรือสิวหัวขาว (closed or white head comedones)


               เป็นตุ่มนูนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-3 มม. จะมีสีเดียวกับผิวหนัง เนื่องจากก้อนไขมันยังไม่เปิดสู่ภายนอก ท่อเปิดของต่อมไขมันที่ตุ่มเหล่านี้แทบจะมองไม่เห็นด้วยตา 75 % ของสิวชนิดนี้จะมีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบต่อไป หากไม่ดูแลให้ดี

สิวหัวปิดหรือสิวหัวขาวระดับตื้น 


               อาจมองเห็นหรือไม่เห็นก้อนไขมันก็ได้ ขึ้นกับระดับความตื้นของสิว แต่ที่มองเห็นได้ชัด คือผิวจะยกตัวนูนขึ้นชัดเจน เหมือนผด แต่ข้างในผดนั้นคือ คอมีโดนสีขาวขุ่น สิวประเภทนี้พบมากบริเวณคาง ซอกจมูก ใต้ริมฝีปาก ถ้าใช้มือบีบออกมาก็จะได้ไขมันสีขาวพุ่ง หลายคนมักเรียก สิวผด / สิวเสี้ยน

 สิวหัวปิดหรือสิวหัวขาวระดับลึก 


               มองด้วยตาเปล่าเห็นรอยนูนของหัวสิวชัดเจน และมีก้อนเป็นไตแข็ง ฝังอยู่ มีโอกาสลุกลามเป็นสิวอักเสบได้สูง สิวประเภทนี้อาจพบได้ แม้จะมีรูขุมขนที่เล็กละเอียด (ผิวประเภทนี้จะมีทางเปิดระบายน้ำมันแคบ) หรือคนที่รูขุมขนกว้าง (พื้นฐานเป็นคนผิวมัน ทางออกของซีบั่มกว้าง) แต่ก็ไม่พอที่จะระบาย

1.2 สิวหัวเปิด/สิวหัวดำ (open or black head comedones )

               จะเห็นเป็นตุ่มนูนๆขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3 มม.เหมือนสิวหัวขาว แต่จุดเด่น คือจะพบก้อนไขมันข้างในที่ถูกผลักจนเปิดสู่ภายนอก สังเกตุได้เป็นจุดสีดำอยู่ตรงกลางซึ่งเกิดจากการขยายตัวของท่อไขมัน และมีสารสีดำๆ อุดแน่นอยู่ภายในที่ประกอบไปด้วย เคอราติน ไขมัน และเชื้อโรค P.acnes แฝงอยู่

สิวหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ แบบที่ 1 แบบมีเม็ดแข็งอัดอยู่ ลูบแล้วสะดุด 


               มีจุดสีดำ คลำแล้วไม่เรียบ เหมือนมีก้อนแข็งๆ เล็กๆ ฝังอยู่ พบได้ประปรายทั่วผิวหน้า อาจพบได้มาก บริเวณ T-zone เช่น จมูก เหนือริมฝีปาก ใต้คางและระหว่างคิ้วบ้างเล็กน้อย ถ้ากดออกมา จะได้ก้อนไขมันแข็ง กดออกง่ายในครั้งเดียว ไม่เหลือคอมีโดนตกค้างอีก รูขุมขนจะค่อยๆเล็กลง และไม่ทิ้งรอย

สิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ แบบที่ 2 แบบลูบแล้วเรียบ



                มีจุดสีดำ คลำแล้วเรียบ อาจสากๆเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับรู้สึกว่ามีก้อนแข็งๆอุดอยู่ พบมากบริเวณจมูก ทำให้จมูกมีจุดๆ เหมือนสตรอวเบอร์รี่ เมื่อกดหรือบีบออกมามักจะได้ เส้นไขมันขาว แต่มักจะไม่ออกมาทั้งหมด จะยังคงเหลือคอมีโดนค้างข้างใน สิวแบบนี้จะไม่หายขาด บางคนเรียกว่า " สิวสตรอว์เบอร์รี่ " เกิดจากการกระจุกตัวของขนอ่อนจำนวนมากร่วมกับคอมีโดนอุดอยู่ในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนขยายและกว้างขึ้น

2.สิวอักเสบ (Inflammatory acne)
สิวประเภทนี้มักเป็นเรื้อรัง รักษายาก และอาจเกิดแผลเป็นหรือคีลอยด์ตามมาได้ แบ่งออกได้ตามลักษณะ คือ

2.1 สิวหัวแดง Papules 

               เป็นตุ่มนูนแดงแข็งมีขนาดแตกต่างกันออกไป ร้อยละ50 ของสิวชนิดนี้เกิดจากสิวที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (microcomedones) 25% เกิดจากสิวหัวปิด ที่เหลือ เกิดจากสิวหัวเปิด

2.2 สิวหัวหนองชนิดตื้นและลึก Pustules 

               มีได้หลายขนาด สิวหนองชนิดตื้นมักหายได้เร็วกว่าสิวชนิด papules ส่วนสิวหนองชนิดลึกจะมีอาการเจ็บร่วมด้วย และพบในผู้ที่เป็นสิวรุนแรง

2.3. สิวหัวช้าง Nodules

               สิวอักเสบแดงเป็นตุ่มนูน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 8 มม. ขึ้นไป สิวชนิดนี้เมื่อหายไปอาจเกิดแผลเป็นตามมาได้ ถ้าดูแลไม่ดี

2.4 Cyst 

               น่ากลัวที่สุดเพราะมันสิวขนาดใหญ่เป็นถุงใต้ผิวหนัง ภายในมีหนองหรือสารเหลวๆ คล้ายเนย หายแล้วมักมีแผลเป็นหลงเหลืออยู่

แอดเราเป็นเพื่อน เพื่อติดตามผ่านช่องทางอื่นๆได้ที่นี่เลยค่ะ
   LINE ID : @chlitina-th


สาระความรู้และความงามน่าสนใจแบบนี้  แชร์แบ่งปันให้เพื่อนรู้บ้างสิ แชร์เลย!!!
Share: Line